ในโลกของการขนส่งยุคใหม่ที่ความปลอดภัยคือหัวใจสำคัญ บุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง หรือ TSM (Transport Safety Manager) ไม่ได้เป็นเพียงแค่ข้อบังคับทางกฎหมาย แต่คือฟันเฟืองสำคัญที่จะขับเคลื่อนอนาคตของการเดินทางที่ปลอดภัยและยั่งยืนอย่างแท้จริง การเกิดขึ้นของ TSM สะท้อนให้เห็นถึงความตระหนักที่เพิ่มขึ้นในทุกภาคส่วนว่า การขนส่งที่มีประสิทธิภาพจะต้องมาพร้อมกับมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด
TSM: มากกว่าแค่กฎ แต่คือรากฐานความปลอดภัย
ในอดีต การจัดการความปลอดภัยในการขนส่งอาจถูกมองว่าเป็นเรื่องที่ทำตามระเบียบมากกว่าการลงลึกในรายละเอียด แต่ปัจจุบันด้วยปริมาณการขนส่งที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ทั้งผู้โดยสารและสินค้า ความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุย่อมเพิ่มขึ้นตามไปด้วย TSM จึงเข้ามาเติมเต็มช่องว่างนี้ ด้วยบทบาทหน้าที่ที่ครอบคลุมตั้งแต่การวางแผนเชิงรุกไปจนถึงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า:
-
วางแผนเชิงป้องกัน: TSM มีหน้าที่ในการประเมินความเสี่ยง กำหนดมาตรการป้องกัน และสร้างแผนฉุกเฉินเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบสภาพรถ การจัดการตารางการทำงานของพนักงานขับรถ การอบรมพนักงาน และการดูแลรักษาระบบความปลอดภัยต่างๆ
-
กำกับดูแลและประเมินผล: ไม่ใช่แค่การกำหนดนโยบาย แต่ TSM ยังต้องกำกับดูแลให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามมาตรฐานที่วางไว้อย่างเคร่งครัด รวมถึงการเก็บข้อมูล วิเคราะห์ และประเมินผล เพื่อนำมาปรับปรุงระบบให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
-
เป็นที่ปรึกษาและผู้ประสานงาน: TSM คือผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยที่จะให้คำแนะนำแก่ผู้บริหาร พนักงาน และผู้ขับขี่ รวมถึงเป็นตัวกลางในการประสานงานกับหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าทุกมิติของการขนส่งเป็นไปตามหลักปฏิบัติที่ดีที่สุด
TSM กับเป้าหมายการเดินทางที่ยั่งยืน
แนวคิดการเดินทางที่ยั่งยืนไม่ได้จำกัดอยู่แค่เรื่องสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงมิติของความปลอดภัยและสังคมด้วยเช่นกัน การมี TSM ในองค์กรจึงเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเป้าหมายนี้:
-
ลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน: สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือ TSM ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งหมายถึงการลดการสูญเสียทั้งชีวิตของผู้คน ทรัพย์สิน และเวลาที่สูญเสียไปกับการจัดการเหตุการณ์
-
สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้บริการ: เมื่อผู้โดยสารหรือลูกค้าขนส่งสินค้ารู้ว่าองค์กรให้ความสำคัญกับความปลอดภัยอย่างจริงจัง โดยมี TSM เป็นผู้ดูแล พวกเขาย่อมเกิดความเชื่อมั่นและไว้วางใจในการใช้บริการ ซึ่งนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจ
-
ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางอ้อม: การบริหารจัดการความปลอดภัยที่ดีมักส่งผลให้ยานพาหนะได้รับการบำรุงรักษาอย่างเหมาะสม ลดการปล่อยมลพิษจากการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ หรือจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน
-
ยกระดับคุณภาพชีวิตของพนักงาน: TSM ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยสำหรับพนักงานขับรถและบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ทำให้พวกเขามีความมั่นใจในการทำงาน และลดความเครียดจากการปฏิบัติงานภายใต้ความเสี่ยง
อนาคตของ TSM และการขนส่งไทย
กรมการขนส่งทางบกได้ออกประกาศให้ผู้ประกอบการขนส่งต้องมี TSM อย่างเต็มรูปแบบภายในวันที่ 1 มกราคม 2568 ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า TSM จะมีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นในอนาคต การลงทุนในการพัฒนาบุคลากร TSM การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการติดตามและบริหารจัดการความปลอดภัย รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยที่ฝังรากลึกในทุกระดับขององค์กร จะเป็นกุญแจสำคัญที่นำพาธุรกิจขนส่งไทยไปสู่อนาคตที่:
-
อุบัติเหตุลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
-
การบริการขนส่งมีคุณภาพและได้มาตรฐานสากล
-
ความน่าเชื่อถือของอุตสาหกรรมขนส่งเพิ่มสูงขึ้น
-
การเดินทางทุกครั้งคือการเดินทางที่ปลอดภัยและไร้กังวล
TSM ไม่ใช่แค่ผู้คุมกฎ แต่เป็นผู้นำด้านความปลอดภัย ผู้สร้างสรรค์นวัตกรรม และผู้ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสู่อนาคตของการเดินทางที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน







