สัญญาณจราจรฉบับปรับปรุง: เข้าใจง่าย ใช้ได้จริง ลดอุบัติเหตุกับกรมการขนส่งทางบก

สัญญาณจราจรฉบับปรับปรุง: เข้าใจง่าย ใช้ได้จริง ลดอุบัติเหตุกับกรมการขนส่งทางบก

การขับขี่บนท้องถนนในปัจจุบันเต็มไปด้วยความท้าทาย ทั้งปริมาณรถที่หนาแน่นและความเร่งรีบในชีวิตประจำวัน สิ่งหนึ่งที่เป็นเหมือนภาษาและกติกาสำคัญที่ผู้ขับขี่ทุกคนต้องเข้าใจตรงกันคือ “สัญญาณจราจร” ไม่ว่าจะเป็นป้ายจราจร สัญญาณไฟ หรือเครื่องหมายบนพื้นทาง แม้จะดูเป็นเรื่องพื้นฐาน แต่หลายครั้งที่ความเข้าใจผิดหรือการละเลยสัญญาณเหล่านี้ นำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันได้ Trainingzenter.com ขอพาทุกท่านมาทบทวนและทำความเข้าใจสัญญาณจราจรฉบับปรับปรุง เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยและมั่นใจยิ่งขึ้น ตามแนวทางของกรมการขนส่งทางบกครับ

ทำไมต้องใส่ใจสัญญาณจราจร?

สัญญาณจราจรถูกออกแบบมาเพื่อ:

  • จัดระเบียบการจราจร: ทำให้การสัญจรเป็นไปอย่างราบรื่น ลดความสับสนและการติดขัด

  • แจ้งข้อมูลและเตือนภัย: บอกให้ผู้ขับขี่ทราบถึงสภาพถนนข้างหน้า ข้อบังคับ หรืออันตรายที่อาจเกิดขึ้น

  • สร้างความปลอดภัย: ลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุด้วยการกำหนดกติกาที่ชัดเจน

การทำความเข้าใจและปฏิบัติตามสัญญาณจราจรอย่างเคร่งครัด จึงเป็นหัวใจสำคัญของการขับขี่ปลอดภัยสำหรับทุกคน

ประเภทของสัญญาณจราจรที่ควรรู้

กรมการขนส่งทางบกได้จำแนกสัญญาณจราจรออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

1. ป้ายจราจร: ภาษาของถนนที่บอกกฎและทิศทาง

ป้ายจราจรมีลักษณะ รูปทรง และสีที่แตกต่างกัน เพื่อสื่อความหมายที่ชัดเจน แบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้

  • ป้ายบังคับ (ป้ายวงกลมขอบแดง หรือพื้นน้ำเงิน): เป็นป้ายที่กำหนดข้อบังคับให้ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมาย เช่น

    • ป้ายหยุด: ต้องหยุดรถให้สนิทหลังเส้นแนวหยุด

    • ป้ายห้ามเลี้ยวซ้าย/ขวา: ห้ามเลี้ยวตามที่ป้ายกำหนด

    • ป้ายห้ามแซง: ห้ามแซงรถคันหน้า

    • ป้ายจำกัดความเร็ว: ห้ามขับเกินความเร็วที่กำหนด

    • ป้ายให้ทาง (สามเหลี่ยมคว่ำ): ต้องให้รถในทางเอกไปก่อน

    • ป้ายบังคับเลี้ยวซ้าย/ขวา (พื้นน้ำเงิน วงกลม): ต้องเลี้ยวไปตามทิศทางที่ป้ายกำหนด

  • ป้ายเตือน (ป้ายสามเหลี่ยมขอบแดง พื้นขาว): เป็นป้ายที่เตือนให้ผู้ขับขี่ระมัดระวังอันตราย หรือสภาพถนนข้างหน้า เพื่อเตรียมตัวรับมือ เช่น

    • ทางโค้งซ้าย/ขวา: เตือนให้ระวังทางโค้ง

    • ทางแยกข้างหน้า: เตือนให้ระวังทางแยก

    • ระวังคนข้ามถนน: เตือนให้ระวังคนเดินเท้าข้ามถนน

    • ทางลื่น: เตือนให้ระวังพื้นผิวถนนลื่น

  • ป้ายแนะนำ/ป้ายบอกทาง (ป้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้า พื้นเขียวหรือฟ้า): เป็นป้ายที่ให้ข้อมูลต่างๆ หรือบอกเส้นทาง เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง เช่น

    • ป้ายบอกระยะทาง: บอกระยะทางไปยังจุดหมายปลายทาง

    • ป้ายบอกเส้นทางไปยังสถานที่สำคัญ: เช่น โรงพยาบาล, สนามบิน

    • ป้ายแนะนำที่จอดรถ: แสดงที่จอดรถ

2. สัญญาณไฟจราจร: การสื่อสารที่แม่นยำและรวดเร็ว

สัญญาณไฟจราจรเป็นที่คุ้นเคยกันดี และมีความสำคัญอย่างยิ่งในการควบคุมการจราจรบริเวณทางแยกหรือจุดตัดสำคัญ

  • ไฟแดง: หยุด! หมายถึงให้หยุดรถหลังเส้นแนวหยุด ห้ามล้ำเข้าไปในทางร่วมทางแยกโดยเด็ดขาด

  • ไฟเหลือง: เตรียมตัว! หมายถึงให้เตรียมหยุดรถ หากขับเลยเส้นแนวหยุดไปแล้วให้ระมัดระวังและผ่านไปได้ แต่ถ้ายังไม่ถึงเส้นแนวหยุด ให้เตรียมชะลอและหยุดรถ

  • ไฟเขียว: ไปได้! หมายถึงให้เคลื่อนรถไปข้างหน้าได้ด้วยความระมัดระวัง แต่ต้องแน่ใจว่าปลอดภัยและไม่มีรถที่ยังค้างอยู่ในทางแยก

  • ไฟกะพริบสีเหลือง: ระมัดระวัง! หมายถึงให้ชะลอความเร็วและเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษก่อนผ่านบริเวณดังกล่าว และพร้อมที่จะหยุดได้หากจำเป็น

  • ไฟกะพริบสีแดง: หยุดแล้วไป! หมายถึงให้หยุดรถหลังเส้นแนวหยุดให้สนิทก่อน แล้วจึงเคลื่อนตัวไปได้ด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ (คล้ายป้าย STOP)

3. เครื่องหมายบนพื้นทาง: เส้นสายที่บอกทิศทางและข้อบังคับ

เครื่องหมายบนพื้นทางเป็นเส้น หรือข้อความที่ตีบนผิวจราจร เพื่อแนะนำ ควบคุม และเตือนผู้ขับขี่

  • เส้นทึบสีขาว: ห้ามแซง หรือห้ามเปลี่ยนช่องจราจร

  • เส้นประสีขาว: อนุญาตให้เปลี่ยนช่องจราจรหรือแซงได้ เมื่อปลอดภัย

  • เส้นทึบคู่: ห้ามแซง หรือห้ามเปลี่ยนช่องจราจรโดยเด็ดขาด

  • ลูกศรบนพื้นทาง: แสดงทิศทางการบังคับให้เลี้ยว หรือให้ตรงไป

  • เส้นหยุด (แนวขวาง): ตำแหน่งที่ต้องหยุดรถเมื่อมีสัญญาณไฟแดง หรือป้ายหยุด

สิ่งสำคัญที่ต้องจำ!

  • ให้ความสำคัญกับป้ายและสัญญาณจราจรเสมอ: อย่าขับรถตามความเคยชิน หรือคิดว่าไม่มีใครเห็น

  • สังเกตสัญญาณจราจรล่วงหน้า: เพื่อให้มีเวลาตัดสินใจและเตรียมตัว

  • ระมัดระวังเป็นพิเศษบริเวณทางแยก: เป็นจุดที่มีความเสี่ยงสูงในการเกิดอุบัติเหตุ

  • ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด: ไม่ว่าจะเป็นป้ายบังคับ ไฟแดง หรือเส้นทึบ

  • หมั่นทบทวนความรู้: กฎหมายและสัญญาณจราจรอาจมีการปรับปรุงได้

บทสรุป

การทำความเข้าใจและปฏิบัติตาม “สัญญาณจราจร” อย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ เป็นรากฐานสำคัญของการขับขี่อย่างมีวินัยและปลอดภัย ไม่เพียงแต่ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเท่านั้น แต่ยังช่วยให้การจราจรเป็นไปอย่างราบรื่น ลดความขัดแย้ง และสร้างสังคมที่ใช้รถใช้ถนนร่วมกันได้อย่างมีความสุขครับ มาสร้างวินัยในการขับขี่ที่ดีร่วมกัน เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองและเพื่อนร่วมทางทุกคน

>> สนใจสมัครอบรม

Facebook : Training Zenter

Line : @961zauzv( มี@ข้างหน้า )

โทรศัพท์ : 094-3955222

บทความล่าสุด

ข่าวล่าสุด