รถสาธารณะเป็นหัวใจสำคัญของการเดินทางในชีวิตประจำวันของคนจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นรถแท็กซี่ รถตู้โดยสาร รถโดยสารประจำทาง หรือแม้แต่รถจักรยานยนต์รับจ้าง การเดินทางด้วยรถสาธารณะที่ปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดสำหรับทั้งผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ Trainingzenter.com ขอสรุป “กฎเหล็ก” ที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดขึ้น เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการขับขี่รถสาธารณะ ที่ทั้งผู้ประกอบการและผู้โดยสารควรรู้และให้ความร่วมมือครับ
บทบาทสำคัญของกรมการขนส่งทางบก
กรมการขนส่งทางบกมีบทบาทหลักในการกำกับดูแล ตรวจสอบ และออกกฎระเบียบต่างๆ เพื่อให้การประกอบการและใช้บริการรถสาธารณะเป็นไปอย่างมีมาตรฐานและปลอดภัยสูงสุด ทั้งการออกใบอนุญาต การตรวจสภาพรถ การกำหนดคุณสมบัติผู้ขับขี่ ไปจนถึงการรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน
กฎเหล็กที่ผู้ประกอบการ/ผู้ขับขี่รถสาธารณะต้องรู้และปฏิบัติ
ผู้ประกอบการและผู้ขับขี่รถสาธารณะมีหน้าที่และความรับผิดชอบสูงกว่าผู้ขับขี่รถส่วนบุคคล เพราะต้องรับผิดชอบชีวิตผู้โดยสารจำนวนมาก กฎเหล็กเหล่านี้จึงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถละเลยได้:
-
ใบอนุญาตขับรถสาธารณะ (ท.2 / ท.3 / ท.4):
-
ผู้ขับขี่รถสาธารณะทุกคนต้องมีใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะที่ถูกต้องและตรงตามประเภทรถที่ขับเท่านั้น
-
การขอและต่ออายุใบอนุญาตประเภทนี้ มีหลักเกณฑ์ที่เข้มงวดกว่าใบขับขี่ส่วนบุคคล เช่น ต้องผ่านการอบรมกฎหมาย จริยธรรม และมีประวัติอาชญากรรมที่ดี
-
-
ตรวจสภาพรถตามระยะเวลาที่กำหนด:
-
รถสาธารณะต้องเข้ารับการตรวจสภาพที่เข้มงวดกว่ารถส่วนบุคคล และบ่อยครั้งกว่า เช่น รถแท็กซี่และรถตู้โดยสารต้องตรวจสภาพทุก 6 เดือน หรือ 3 เดือน (ตามอายุรถ)
-
การตรวจสอบครอบคลุมทุกระบบที่สำคัญต่อความปลอดภัย เช่น ระบบเบรก ยาง ล้อ ช่วงล่าง เครื่องยนต์ ระบบไอเสีย และอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร
-
-
ความพร้อมของผู้ขับขี่:
-
ห้ามดื่มแอลกอฮอล์หรือใช้สารเสพติด: ผู้ขับขี่ต้องไม่ดื่มสุราหรือเสพสิ่งมึนเมาใดๆ ขณะปฏิบัติหน้าที่ และต้องไม่เมาค้างจากวันก่อนหน้า
-
พักผ่อนให้เพียงพอ: ผู้ขับขี่ต้องพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันอาการหลับใน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของอุบัติเหตุร้ายแรง
-
มีมารยาทและบริการที่ดี: แต่งกายสุภาพ มีกิริยามารยาทที่ดี พูดจาสุภาพ ไม่เอารัดเอาเปรียบผู้โดยสาร
-
-
อุปกรณ์ความปลอดภัยในรถ:
-
อุปกรณ์ฉุกเฉิน: รถโดยสารทุกคันต้องมีค้อนทุบกระจก ถังดับเพลิง และประตูทางออกฉุกเฉิน (สำหรับรถโดยสารขนาดใหญ่) ในสภาพพร้อมใช้งานและอยู่ในตำแหน่งที่ผู้โดยสารเข้าถึงได้ง่าย
-
เข็มขัดนิรภัย: ต้องจัดให้มีเข็มขัดนิรภัยครบทุกที่นั่งและอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ผู้โดยสารต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง
-
GPS Tracking: รถโดยสารสาธารณะบางประเภท (เช่น รถโดยสารประจำทาง, รถตู้โดยสาร) ต้องติดตั้งระบบ GPS Tracking เพื่อติดตามพฤติกรรมการขับขี่ ความเร็ว และชั่วโมงการทำงานของผู้ขับขี่
-
-
การปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด:
-
ขับขี่ด้วยความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด ไม่ขับเร็วเกินไป หรือช้าเกินไปจนเป็นอุปสรรค
-
ไม่ขับขี่หวาดเสียว เปลี่ยนเลนกะทันหัน หรือแซงในที่คับขัน
-
ปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจร ป้ายจราจร และเครื่องหมายจราจรบนพื้นทางทุกประการ
-
ห้ามจอดรถในที่ห้ามจอด หรือจอดกีดขวางการจราจร
-
กฎเหล็กที่ผู้โดยสารควรรู้และใช้สิทธิ์เพื่อความปลอดภัย
ผู้โดยสารก็มีบทบาทสำคัญในการช่วยสร้างความปลอดภัยในการเดินทาง ผู้โดยสารไม่ใช่แค่ผู้ใช้บริการ แต่ยังมีสิทธิ์และหน้าที่ในการสังเกตและแจ้งข้อมูลหากพบความผิดปกติ:
-
สังเกตข้อมูลผู้ขับขี่และรถ:
-
ตรวจสอบชื่อ-นามสกุล และเลขที่ใบอนุญาตขับรถของผู้ขับขี่ ที่แสดงไว้ในรถ หรือบนแอปพลิเคชัน
-
สังเกตสภาพรถ ป้ายทะเบียน และความสะอาดเรียบร้อย
-
-
คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง:
-
ถือเป็นกฎหมายที่บังคับใช้กับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร การคาดเข็มขัดนิรภัยช่วยลดความรุนแรงของการบาดเจ็บได้อย่างมากหากเกิดอุบัติเหตุ
-
-
สังเกตพฤติกรรมการขับขี่:
-
หากพบผู้ขับขี่ขับรถด้วยความเร็วเกินกำหนด ขับขี่หวาดเสียว มีกลิ่นแอลกอฮอล์ หรือมีอาการง่วงนอน ควรแจ้งให้ผู้ขับขี่ทราบ หรือใช้สิทธิ์ลงจากรถหากรู้สึกไม่ปลอดภัย
-
-
รู้จักช่องทางร้องเรียน:
-
หากพบการกระทำผิดกฎหมาย หรือได้รับบริการที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนได้ที่กรมการขนส่งทางบก สายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง โดยให้ข้อมูลที่จำเป็น เช่น ทะเบียนรถ วันที่ เวลา และรายละเอียดเหตุการณ์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบและลงโทษได้ทันท่วงที
-
บันทึกภาพ/วิดีโอ (ถ้าทำได้) เพื่อเป็นหลักฐาน
-
บทสรุป
การขับขี่รถสาธารณะให้ปลอดภัยเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบร่วมกันของทั้งผู้ประกอบการ ผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร การที่ผู้ประกอบการและผู้ขับขี่ปฏิบัติตามกฎเหล็กของกรมการขนส่งทางบกอย่างเคร่งครัด รวมถึงการที่ผู้โดยสารรู้จักสิทธิ์และหน้าที่ของตนเองในการสังเกตและแจ้งข้อมูล จะเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการขนส่งสาธารณะของประเทศ ให้ทุกคนเดินทางได้อย่างมั่นใจและถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพครับ







