การขับรถฉุกเฉินไม่ใช่แค่เรื่องของทักษะการขับขี่ส่วนบุคคล แต่เป็นการปฏิบัติภารกิจที่ต้องอาศัยการทำงานเป็นทีมอย่างมีประสิทธิภาพ การอบรมในหลักสูตร EVOC (Emergency Vehicle Operator Course) จึงไม่ได้เน้นเพียงแค่การบังคับรถ แต่ยังให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกับทีมและภาวะผู้นำของผู้ขับขี่ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการปฏิบัติภารกิจฉุกเฉินให้สำเร็จและปลอดภัย บทความนี้จะเจาะลึกถึงองค์ประกอบสำคัญเหล่านี้
1. การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ: คลื่นความถี่เดียวกัน
ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่เวลาทุกวินาทีมีความหมาย การสื่อสารที่ผิดพลาดเพียงครั้งเดียวอาจส่งผลร้ายแรง การอบรมจึงเน้นให้ผู้ขับขี่สามารถสื่อสารกับทีมแพทย์ในรถได้อย่างชัดเจนและรวดเร็ว
-
ภาษาที่กระชับและตรงไปตรงมา: ผู้ขับขี่ต้องสื่อสารด้วยถ้อยคำที่เข้าใจง่าย ไม่กำกวม เช่น “ใกล้ถึงแล้ว”, “กำลังเลี้ยวซ้าย”, หรือ “ระวังหลุม” เพื่อให้ทีมแพทย์ในรถสามารถเตรียมตัวรับมือได้
-
การใช้คำสั่งและคำขอ: ฝึกการใช้คำสั่งที่ชัดเจน เช่น “เตรียมตัวสำหรับเบรก” หรือ “พร้อมจะออกตัว” เพื่อให้ทีมงานในรถรับรู้และเตรียมพร้อม
-
การรายงานสภาพถนน: ผู้ขับขี่ต้องรายงานสภาพถนนที่ไม่คาดคิด เช่น การจราจรติดขัด, อุบัติเหตุข้างหน้า, หรือสภาพถนนที่ขรุขระ เพื่อให้ทีมแพทย์สามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการหยุดชะงัก
การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพจะช่วยลดความตึงเครียดและเพิ่มความเชื่อมั่นระหว่างผู้ขับขี่และทีมแพทย์ในรถ ทำให้การปฏิบัติภารกิจเป็นไปอย่างราบรื่น
2. การตัดสินใจภายใต้แรงกดดัน: ภาวะผู้นำในสถานการณ์วิกฤต
ผู้ขับขี่รถฉุกเฉินต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลำบากในสถานการณ์ที่มีความเครียดสูง การอบรมในหลักสูตร EVOC จึงมุ่งเน้นการพัฒนาภาวะผู้นำเพื่อให้สามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง
-
การประเมินสถานการณ์อย่างรวดเร็ว: ฝึกให้ผู้ขับขี่สามารถประเมินสถานการณ์รอบตัวได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว เช่น การประเมินความเสี่ยงบนท้องถนน, การเลือกใช้สัญญาณไฟและเสียงให้เหมาะสม และการเลือกเส้นทางที่ปลอดภัยที่สุด
-
การรับมือกับความเครียด: สอนเทคนิคในการจัดการความเครียด เพื่อให้สามารถตัดสินใจได้อย่างมีสติ ไม่ใช้อารมณ์
-
การตัดสินใจโดยคำนึงถึงความปลอดภัย: การตัดสินใจที่ดีที่สุดคือการตัดสินใจที่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารในรถ (ผู้ป่วยและทีมแพทย์), ตัวผู้ขับขี่เอง, และผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ เป็นสำคัญ
ภาวะผู้นำของผู้ขับขี่คือการนำพาผู้โดยสารในรถไปสู่จุดหมายอย่างปลอดภัย แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด
3. การประสานงานกับหน่วยงานอื่น: ทีมที่กว้างขึ้น
การทำงานในสถานการณ์ฉุกเฉินไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในรถพยาบาลเท่านั้น ผู้ขับขี่ต้องสามารถประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้อย่างราบรื่น
-
การสื่อสารกับผู้ควบคุมการจราจร: เรียนรู้ที่จะสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือผู้ควบคุมการจราจรเพื่อขอเปิดเส้นทางหรือขอความช่วยเหลือ
-
การทำงานร่วมกับหน่วยกู้ภัยอื่นๆ: เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ผู้ขับขี่ต้องทำงานร่วมกับหน่วยกู้ภัยอื่นๆ เพื่อจัดการสถานการณ์และเคลื่อนย้ายผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย
การอบรมในหลักสูตร EVOC จึงเน้นให้ผู้ขับขี่ตระหนักว่าพวกเขาคือส่วนหนึ่งของทีมที่ใหญ่กว่านั้น และการทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างมีประสิทธิภาพคือสิ่งสำคัญที่สุดในการช่วยชีวิตผู้คน
บทสรุป
การขับขี่รถฉุกเฉินเป็นภารกิจที่สำคัญและมีความเสี่ยงสูง การอบรมในหลักสูตร EVOC จึงไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่การพัฒนาทักษะการขับขี่ แต่ยังรวมถึงการพัฒนาทักษะด้านการทำงานเป็นทีมและภาวะผู้นำ การที่ผู้ขับขี่สามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ, ตัดสินใจได้อย่างแม่นยำภายใต้แรงกดดัน, และประสานงานกับผู้อื่นได้อย่างราบรื่น คือสิ่งที่ทำให้การปฏิบัติภารกิจฉุกเฉินประสบความสำเร็จและปลอดภัยในที่สุด
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Line: @961zauzv
โทร: 094-395-5222
Facebook: Training Zenter