การขนส่งวัตถุอันตรายเป็นงานที่ต้องใช้ความระมัดระวังและความรู้เฉพาะทางสูงกว่าการขนส่งสินค้าทั่วไป เนื่องจากความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจนำไปสู่หายนะที่ส่งผลกระทบต่อชีวิต, ทรัพย์สิน, และสิ่งแวดล้อมได้อย่างร้ายแรง กรมการขนส่งทางบกจึงได้กำหนดข้อบังคับและขั้นตอนที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการขนส่งประเภทนี้โดยเฉพาะ บทความนี้จะสรุปข้อกำหนดที่สำคัญและแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องสำหรับผู้ขับรถขนส่งวัตถุอันตราย
1. ข้อกำหนดสำคัญที่ต้องรู้ก่อนออกเดินทาง 📜
การขนส่งวัตถุอันตรายเริ่มต้นด้วยการเตรียมความพร้อมทั้งในส่วนของคนขับและตัวรถ โดยมีข้อกำหนดหลักดังนี้:
-
ใบอนุญาตขับขี่ที่ถูกต้อง: ผู้ขับรถต้องมีใบอนุญาตขับขี่ประเภทที่ 4 (รถประเภทวัตถุอันตราย) และต้องผ่านการอบรมหลักสูตรพิเศษเพื่อรับใบอนุญาตนี้โดยเฉพาะ
-
เอกสารการขนส่งครบถ้วน: ต้องมีเอกสารกำกับสินค้าอันตราย (Dangerous Goods Declaration) ซึ่งระบุประเภท, ปริมาณ, และคำแนะนำในการจัดการฉุกเฉินอย่างชัดเจน
-
สัญลักษณ์แสดงวัตถุอันตราย: รถต้องติดป้ายสัญลักษณ์แสดงประเภทของวัตถุอันตราย (Hazardous Material Placards) ไว้ที่ด้านหน้า, ด้านหลัง, และด้านข้างของรถอย่างชัดเจน
-
อุปกรณ์ฉุกเฉิน: รถต้องมีอุปกรณ์ฉุกเฉินที่จำเป็น เช่น ถังดับเพลิง, อุปกรณ์ปฐมพยาบาล, ชุดป้องกันส่วนบุคคล (PPE), และอุปกรณ์ทำความสะอาดในกรณีที่เกิดการรั่วไหล
2. ขั้นตอนการปฏิบัติงานเพื่อความปลอดภัยสูงสุด ✅
-
การตรวจสอบรถก่อนเดินทาง (Pre-trip Inspection): ตรวจสอบสภาพรถอย่างละเอียดทุกส่วน โดยเฉพาะระบบเบรก, ยาง, ระบบไฟฟ้า, และอุปกรณ์นิรภัยต่างๆ ให้แน่ใจว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งาน
-
การบรรทุกสินค้าอย่างระมัดระวัง: การบรรทุกต้องเป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมาย และต้องรัดตรึงสินค้าให้แน่นหนาเพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ระหว่างการเดินทาง
-
การเลือกใช้เส้นทางที่ปลอดภัย: ควรวางแผนเส้นทางที่หลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมชนหนาแน่น, โรงเรียน, หรือแหล่งน้ำสำคัญ และต้องขับขี่ตามเส้นทางที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
-
การขับขี่อย่างระมัดระวังและมีวินัย: รักษาความเร็วให้คงที่และไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เว้นระยะห่างจากรถคันอื่นให้มากกว่าปกติ และงดการใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่อย่างเด็ดขาด
-
การจัดการเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน: หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในเอกสารกำกับสินค้าอันตราย และต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินและ TSM (Transport Safety Manager) ทันที
3. บทบาทของ TSM และผู้ประกอบการ
ผู้ประกอบการมีหน้าที่ในการจัดอบรมและให้ความรู้แก่พนักงานขับรถอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการจัดหาอุปกรณ์และยานพาหนะที่ได้มาตรฐานเพื่อใช้ในการขนส่ง ขณะที่ TSM มีบทบาทสำคัญในการควบคุมและติดตามการปฏิบัติงานทั้งหมดเพื่อให้เป็นไปตามกฎระเบียบ
สรุป: ความรู้และความรับผิดชอบคือสิ่งสำคัญที่สุด
การขนส่งวัตถุอันตรายไม่ใช่เพียงแค่การขับรถ แต่เป็นการปฏิบัติงานที่ต้องใช้ความรู้, ทักษะ, และความรับผิดชอบอย่างสูง การปฏิบัติตามข้อกำหนดและขั้นตอนที่ถูกต้องอย่างเคร่งครัดจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ และสร้างความปลอดภัยให้กับทุกชีวิตบนท้องถนน
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Line: @961zauzv
โทร: 094-395-5222
Facebook: Training Zenter