ในช่วงปริมาณงานสูงสุด เช่น ปิดเทอมหรือเทศกาล ธุรกิจขนส่งมักเผชิญกับแรงกดดันมหาศาลในการทำเวลา ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้มาตรฐานความปลอดภัยในการบรรทุกและขนถ่ายถูกละเลย ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อสินค้า, การบาดเจ็บของพนักงาน, และอุบัติเหตุบนท้องถนน Transport Safety Manager (TSM) จึงต้องเน้นย้ำและกำกับดูแลมาตรการความปลอดภัยในกระบวนการเหล่านี้อย่างเข้มงวด แม้ในช่วงเวลาที่เร่งด่วนที่สุด
1. การควบคุมน้ำหนักและการกระจายน้ำหนักลงเพลา ⚖️
ความเร่งรีบไม่ควรนำมาซึ่งการบรรทุกเกินพิกัดหรือการจัดเรียงน้ำหนักที่ไม่ถูกต้อง เพราะนั่นคือจุดเริ่มต้นของอุบัติเหตุร้ายแรง
-
ตรวจสอบน้ำหนักลงเพลาอย่างเคร่งครัด: สิ่งสำคัญที่สุดคือการควบคุม น้ำหนักลงเพลา (Axle Weight) ไม่ให้เกินกำหนดตามกฎหมายและพิกัดของรถบรรทุก เพราะการรับน้ำหนักเกินเพลาใดเพลาหนึ่งโดยเฉพาะจะทำให้รถ เสียการทรงตัวง่าย และ ลดประสิทธิภาพของระบบเบรก
-
ใช้เทคโนโลยีช่วยตรวจสอบ: ควรใช้ ระบบชั่งน้ำหนักติดตั้งบนตัวรถ (Onboard Weighing Systems) หากเป็นไปได้ เพื่อให้คนขับสามารถตรวจสอบและปรับน้ำหนักได้ทันทีก่อนออกจากลาน หรือบังคับให้ใช้เครื่องชั่งที่ได้มาตรฐานก่อนการออกเดินทางทุกครั้ง
-
หลักการจัดเรียงน้ำหนัก: เน้นย้ำกฎทองที่ว่า “ของหนักอยู่ล่าง” และกระจายสินค้าให้สมดุลทั้งด้านหน้า-หลัง และซ้าย-ขวา เพื่อให้จุดศูนย์ถ่วง (Center of Gravity) ของรถคงที่ ซึ่งช่วยให้รถควบคุมได้ง่ายขึ้นแม้ในยามเบรกกะทันหัน
2. การผูกยึดสินค้า (Cargo Securement) ต้องได้มาตรฐานเสมอ 🔗
สินค้าที่ถูกผูกยึดอย่างหลวม ๆ อาจเคลื่อนที่ระหว่างการขับขี่ นำไปสู่การเปลี่ยนถ่ายน้ำหนักที่ไม่คาดคิด หรือสินค้าหลุดร่วงลงสู่ถนน
-
ห้ามประนีประนอมกับอุปกรณ์: ในช่วงเร่งด่วน คนขับอาจรีบใช้สายรัด (Ratchet Straps) หรือโซ่ผูกยึดแบบลวก ๆ TSM ต้องเน้นย้ำให้ใช้ อุปกรณ์ผูกยึดที่มีมาตรฐาน และตรวจสอบ ความตึงของสายรัด ว่าเพียงพอต่อการยึดสินค้านั้น ๆ (อ้างอิงจาก Working Load Limit – WLL)
-
ป้องกันช่องว่าง: ใช้ ถุงลมกันกระแทก (Dunnage Bags) หรือวัสดุบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมเพื่อเติมเต็มช่องว่างระหว่างสินค้าภายในตู้คอนเทนเนอร์หรือรถบรรทุก เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ไปด้านหน้าหรือด้านหลังเมื่อมีการเร่งความเร็วหรือเบรก
-
การตรวจสอบความแน่นหนา: กำหนดขั้นตอนให้คนขับต้องหยุดรถในจุดที่ปลอดภัยหลังจากขับออกไปได้ระยะทางสั้น ๆ (เช่น 15-30 นาที) เพื่อ ตรวจสอบความแน่นของสายรัดซ้ำ อีกครั้ง เพราะการสั่นสะเทือนในช่วงแรกมักทำให้สายรัดหย่อนยานได้
3. ความปลอดภัยในพื้นที่ขนถ่าย (Loading/Unloading Zone) ⚠️
อุบัติเหตุในพื้นที่ขนถ่าย (Yard) มักเกิดขึ้นเพราะความเร่งรีบในการเข้าออกรถยกและคนงาน TSM ต้องกำหนดมาตรการควบคุมที่เข้มงวด:
-
ใช้เครื่องหนุนล้อ (Wheel Chocks) เสมอ: ก่อนที่จะมีการขนถ่ายสินค้าใด ๆ คนขับต้อง ดับเครื่อง, ล็อกเบรกมือ, และวางเครื่องหนุนล้อ อย่างมั่นคงที่ยาง เพื่อป้องกันไม่ให้รถบรรทุกหรือเทรลเลอร์เคลื่อนที่ขณะที่มีการใช้รถยก (Forklift) เข้า-ออก
-
กำหนดเขตพื้นที่ปลอดภัย: กำหนด เขตห้ามเข้า หรือระยะห่างที่ปลอดภัยรอบรถบรรทุกในระหว่างการขนถ่าย เพื่อป้องกันไม่ให้คนงานหรือบุคลากรอื่น ๆ เข้ามาในพื้นที่เสี่ยงถูกรถยกชน หรือสินค้าหล่นใส่
-
การสื่อสารและสัญญาณมือ: ต้องมีการสื่อสารที่ชัดเจนระหว่างคนขับกับพนักงานคลังสินค้า ก่อนเริ่มและขณะดำเนินงาน รวมถึงการใช้สัญญาณมือหรือวิทยุสื่อสารเพื่อยืนยันความพร้อมในแต่ละขั้นตอน
การจัดการความปลอดภัยในการบรรทุกและขนถ่ายในช่วงเวลาเร่งด่วนไม่ใช่เรื่องของการทำให้งานช้าลง แต่เป็นการ ทำให้งานดำเนินไปอย่างราบรื่นและลดความผิดพลาด ซึ่งในท้ายที่สุดจะช่วยลดความล่าช้าจากอุบัติเหตุหรือความเสียหายที่ต้องแก้ไขภายหลังได้อย่างยั่งยืน
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Line: @961zauzv
โทร: 094-395-5222
Facebook: Training Zenter