Uncategorized

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Emergency Vehicle Operation Course (EVOC)

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Emergency Vehicle Operation Course (EVOC)

สำหรับผู้ที่อยู่หลังพวงมาลัยของรถฉุกเฉินทุกคัน ภารกิจของคุณคือ “นำส่งชีวิต” EVOC คือหลักสูตรที่ช่วยเสริมสร้างทักษะและความมั่นใจ เพื่อให้คุณปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด!

Q1: EVOC (Emergency Vehicle Operation Course) คืออะไร?

A1: EVOC (Emergency Vehicle Operation Course) หรือ หลักสูตรการขับรถฉุกเฉิน เป็นหลักสูตรเฉพาะทางที่ออกแบบมาเพื่อฝึกฝนผู้ขับขี่รถฉุกเฉิน (เช่น รถพยาบาล, รถกู้ชีพ, รถดับเพลิง, รถตำรวจ) ให้มีความรู้ ทักษะ และทัศนคติที่ถูกต้องในการขับขี่ภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉินอย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และคำนึงถึงชีวิตของผู้ป่วยและผู้ใช้ถนนคนอื่นเป็นสำคัญ

Q2: EVOC แตกต่างจากการขับรถทั่วไป หรือ DDC (Defensive Driving Course) อย่างไร?

A2: EVOC มีความเฉพาะเจาะจงและเข้มข้นกว่า:

  • ขับรถทั่วไป: เน้นการบังคับรถพื้นฐาน

  • DDC (Defensive Driving Course): เน้นการขับขี่เชิงป้องกัน คาดการณ์อันตราย และแก้ไขสถานการณ์สำหรับรถทั่วไป

  • EVOC: นอกจาก DDC แล้ว ยังเพิ่มทักษะเฉพาะของการขับรถฉุกเฉิน เช่น:

    • การควบคุมรถที่มีน้ำหนักและจุดศูนย์ถ่วงสูง

    • การใช้ความเร็วสูงอย่างปลอดภัยและมีวินัย

    • การใช้สัญญาณไฟและเสียงไซเรนอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

    • การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยอย่างนุ่มนวลที่สุด

    • การทำงานร่วมกับทีมแพทย์ฉุกเฉิน

    • ความเข้าใจในกฎหมายและสิทธิเฉพาะของรถฉุกเฉิน

Q3: ใครควรเข้ารับการอบรม EVOC?

A3: EVOC เหมาะสำหรับบุคลากรทุกคนที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ขับขี่รถฉุกเฉิน หรือผู้ที่ต้องการเตรียมพร้อมสำหรับอาชีพนี้:

  • พนักงานขับรถพยาบาล, รถกู้ชีพ, รถ EMS

  • เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัย, หน่วยกู้ภัยต่างๆ

  • พนักงานขับรถดับเพลิง, รถตำรวจ

  • บุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องขับรถฉุกเฉินเอง

  • ผู้บริหารหรือหัวหน้าทีมที่ดูแลการปฏิบัติงานรถฉุกเฉิน

Q4: การอบรม EVOC มีประโยชน์ต่อผู้ขับขี่และองค์กรอย่างไร?

A4:

  • สำหรับผู้ขับขี่: เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ภายใต้สถานการณ์กดดัน, ลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ, พัฒนาทักษะเฉพาะทาง, และยกระดับสู่การเป็น ‘ฮีโร่หลังพวงมาลัย’ ที่มีคุณค่า

  • สำหรับองค์กร (โรงพยาบาล, หน่วยกู้ภัย, มูลนิธิ): ลดอุบัติเหตุและค่าใช้จ่าย (ค่าซ่อมรถ, ค่ารักษาพยาบาล, ค่าปรับ), เพิ่มประสิทธิภาพในการนำส่งผู้ป่วย, สร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจจากประชาชนและกรมสาธารณสุข, และแสดงความรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของบุคลากรและสังคม

Q5: EVOC ของ TZ Trainingzenter แตกต่างจากที่อื่นอย่างไร?

A5: TZ Trainingzenter มุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ EVOC ที่เหนือกว่า ด้วย:

  • หลักสูตรที่ครบวงจรและเข้มข้น: ครอบคลุมทั้งภาคทฤษฎี (กฎหมาย, จิตวิทยาการขับขี่) และภาคปฏิบัติ (การขับขี่ด้วยความเร็วสูง, การควบคุมรถในสถานการณ์วิกฤต, การจัดการน้ำหนักรถ)

  • ผู้สอนมืออาชีพและมากประสบการณ์: ทีมผู้ฝึกสอนของเราเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์จริงในการขับรถฉุกเฉิน และได้รับการรับรองมาตรฐานการฝึกอบรม

  • การผสานความรู้จาก 2 กรมสำคัญ: หลักสูตรของเราได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับมาตรฐานทักษะจาก กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และตอบโจทย์ภารกิจการดูแลชีวิตตาม ‘หัวใจ’ ของ กรมสาธารณสุข

  • การฝึกปฏิบัติกับยานพาหนะจำลองสถานการณ์จริง: เรามีสนามฝึกและอุปกรณ์ที่ช่วยจำลองสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อให้ผู้เรียนได้ฝึกฝนทักษะการควบคุมรถอย่างปลอดภัยและมั่นใจ

  • เน้นการสร้าง ‘ผู้ช่วยชีวิต’ ที่แท้จริง: ไม่ใช่แค่ขับรถเป็น แต่เข้าใจถึงความสำคัญของทุกวินาทีในการนำส่งชีวิต

Q6: หลักสูตร EVOC มีการอบรมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติหรือไม่?

A6: มีครับ หลักสูตร EVOC ของเราเน้นการเรียนรู้แบบบูรณาการทั้ง ภาคทฤษฎี เพื่อสร้างความเข้าใจในหลักการ, กฎหมาย, และจิตวิทยาการขับขี่ในภาวะฉุกเฉิน และ ภาคปฏิบัติ ที่เข้มข้นบนสนามฝึก เพื่อให้ผู้เรียนได้ฝึกฝนทักษะการควบคุมรถฉุกเฉินในสถานการณ์ต่างๆ เช่น การใช้เบรก ABS/Non-ABS, การหลบหลีกสิ่งกีดขวาง, การขับขี่บนพื้นผิวลื่น และการจัดการกับน้ำหนักรถ

Q7: ต้องมีพื้นฐานการขับรถมาก่อนหรือไม่? และใช้รถของใครในการฝึกปฏิบัติ?

A7: ผู้เข้ารับการอบรมต้องมีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ที่ถูกต้องและมีประสบการณ์ในการขับรถมาในระดับหนึ่งครับ สำหรับการฝึกปฏิบัติ เรามีรถฝึกที่เหมาะสมสำหรับหลักสูตร EVOC หรือหากองค์กรต้องการนำรถฉุกเฉินของตนเองมาฝึก เพื่อให้คุ้นเคยกับยานพาหนะจริง ก็สามารถทำได้ (โปรดสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม)

Q8: ใช้ระยะเวลาในการอบรมกี่วัน? และมีตารางอบรมอย่างไร?

A8: (โปรดระบุรายละเอียดตามหลักสูตรจริงของ TZ Trainingzenter เช่น)

  • โดยทั่วไปหลักสูตร EVOC จะใช้เวลาอบรมประมาณ 2-3 วัน ขึ้นอยู่กับเนื้อหาและความเข้มข้นของหลักสูตร

  • สามารถดูตารางอบรมสาธารณะสำหรับบุคคลทั่วไปได้ที่ [ลิงก์ไปยังหน้าตารางอบรม]

  • สำหรับองค์กร (เช่น โรงพยาบาล, หน่วยกู้ภัย) ที่ต้องการจัดอบรมภายใน (In-house Training) สามารถติดต่อเพื่อกำหนดวันและเวลาที่เหมาะสมได้ครับ

Q9: จะได้รับใบประกาศนียบัตรหลังจากการอบรมหรือไม่?

A9: ใช่ครับ ผู้ที่ผ่านการอบรม EVOC ตามเกณฑ์ของหลักสูตรจะได้รับ ใบประกาศนียบัตรรับรองการผ่านการอบรม จาก TZ Trainingzenter ซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นหลักฐานในการพัฒนาทักษะและความเชี่ยวชาญในการขับขี่รถฉุกเฉินได้

>> สนใจสมัครอบรม

Facebook : Training Zenter

Line : @961zauzv( มี@ข้างหน้า )

โทรศัพท์ : 094-3955222

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Emergency Vehicle Operation Course (EVOC) Read More »

ขับอย่างไรให้ปลอดภัยในเขตชุมชน

ทุกการเดินทางเราพร้อมดูแลคุณ กับบริษัทไอดีไดรฟ์ จำกัด

อุบัติเหตุทางถนนที่เพิ่มมากขึ้นหลังจากการเปิดประเทศ ส่วนใหญ่ยังคงเกิดขึ้นกับพวกเมาแล้วขับ รถจักรยานยนต์กลายเป็นยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด ตามด้วยรถยนต์ ที่ไม่ได้เกิดแค่บนถนนไฮเวย์ หรือบนทางหลวงเท่านั้น บริเวณชุมชนที่มีผู้คนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ก็มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นไม่น้อย คนเดินเท้า จักรยาน คนข้ามถนน คนขายของที่อยู่ริมถนน เมื่อขับผ่านเขตชุมชนนักขับส่วนใหญ่จะมีความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น เช่น ลดความเร็ว ไม่ขับจี้ท้ายหรือเปลี่ยนช่องทางไปมาด้วยความเร็ว แต่ก็ยังมีผู้ใช้รถใช้ถนนบางคนที่สติไม่ได้จดจ่ออยู่กับการขับรถ การขาดความระวังแม้แค่แวบเดียวก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ โดยเฉพาะการขับในเขตเมือง การขับรถในเขตชุมชนนั้นดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่กลับมีอันตรายมากกว่าการขับรถบนทางหลวง ต้องใช้สมาธิมากกว่าเดิม ใจร้อน ไม่มีสติ ขาดยั้งคิด

อุบัติเหตุนั้นเพิ่มมากขึ้น การสังเกต หรือคาดการณ์ก็จะมีความยุ่งยากและซับซ้อน เครื่องหมายหรือป้ายจราจรก็เยอะ ผู้คนที่สัญจรไปมาทั้งบนทางเท้าและบนถนน ไม่เห็นป้ายบอกเขตจำกัด    ความเร็ว หรือเขตโรงเรียน  การออกตัว หรือหยุดรถในเขตเมือง โดยขาดความระมัดระวัง อาจหมายถึงอุบัติเหตุ แต่ละถนน แต่ละแยก แต่ละซอย ล้วนเป็นจุดอันตราย

     เขตอันตราย ที่อาจไร้ความระมัดระวัง การเลี้ยวกลับรถบริเวณทางแยกทางร่วม ไม่ว่าจะเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา หรือแม้แต่การขับยูเทิร์น สิ่งที่ต้องระวังก็คือรถบรรทุกขนาดใหญ่ หรือรถพ่วง บางคันอาจกำลังขับคร่อมเลนเมื่อคุณต้องการการเลี้ยวที่ปลอดภัยคือ ต้องเริ่มให้สัญญาณก่อนการเลี้ยวล่วงหน้า อยู่ในช่องทางที่จะเลี้ยวอย่างถูกต้อง ไม่ขับคร่อมเส้นแบ่งช่องทางก่อนการเลี้ยว

      ขับโดยทิ้งระยะห่างจากรถคันข้างหน้าใช้ความเร็วต่ำ เพื่อจะได้มีพื้นที่ในการมองและพร้อมที่จะหลบ หรือเบรกให้ทัน ใช้เสียงแตรเตือนเมื่อไม่แน่ใจว่าเขาจะเปิดประตูออกมาหรือไม่เพื่อระวัง เนื่องจากรูปแบบของอุบัติเหตุนั้นแตกต่างกันออกไปตาม สถานที่ด้วยค่ะ

สาระดี  มีมาฝาก จาก ศูนย์ตรวจสภาพรถไอดีสารคาม โดย บริษัทไอดีไดรฟ์ จำกัด

นำมาฝากสำหรับทุกท่านนะคะ หากอ่านแล้วข่าวสารนี้ได้รับความรู้ ฝากกดไลค์ กดแชร์ ติดตามเป็นกำลังใจด้วยนะคะ ด้วยความห่วงใย จากศูนย์ตรวจสภาพรถไอดีไดรฟ์ ขอขอบคุณค่ะ


☎️ 043-020-512, 063-506-5577 ,093-479-9747

ขับอย่างไรให้ปลอดภัยในเขตชุมชน Read More »