การอบรมขับขี่เชิงป้องกัน (DDC) ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ขับขี่มีทักษะดีขึ้น แต่ยังสอดคล้องกับข้อกำหนดทางกฎหมายของไทย ซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งต่อผู้ประกอบการและผู้ขับขี่เอง
1. DDC: ส่งเสริมวินัยการขับขี่ตามกฎหมาย ⚖️
กฎหมายขนส่งทางบกของไทยมุ่งเน้นการควบคุมพฤติกรรมผู้ขับขี่เพื่อลดอุบัติเหตุ ซึ่งหลักสูตร DDC ช่วยตอบโจทย์นี้โดยตรง
-
การจำกัดความเร็ว: กฎหมายกำหนดความเร็วสูงสุดในแต่ละพื้นที่ หลักสูตร DDC สอนให้ผู้ขับขี่ไม่ขับรถเร็วเกินกำหนดและรู้จักประเมินความเร็วที่เหมาะสมกับสภาพถนนและรถ เพื่อให้สามารถควบคุมรถและหยุดรถได้ทันในสถานการณ์ฉุกเฉิน
-
การรักษาระยะปลอดภัย: กฎหมายบังคับให้ผู้ขับขี่ต้องรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าเพื่อป้องกันการชนท้าย หลักสูตร DDC จะฝึกให้ผู้ขับขี่เว้นระยะห่างอย่างน้อย 2-3 วินาที ซึ่งช่วยให้มีเวลาตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้
2. DDC: สอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัยของขนส่ง 🚦
กรมการขนส่งทางบกมีมาตรการส่งเสริมความปลอดภัย เช่น การอบรม TSM สำหรับผู้ประกอบการ ซึ่งหลักสูตร DDC เป็นส่วนเติมเต็มที่สำคัญของมาตรการเหล่านี้
-
เสริมความรู้ TSM: ผู้จัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง (TSM) มีหน้าที่ดูแลและประเมินพฤติกรรมพนักงานขับรถ การอบรม DDC ช่วยให้พนักงานขับรถมีความรู้เชิงป้องกัน ซึ่งทำให้ง่ายต่อการบริหารจัดการและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของ TSM
-
เตรียมพร้อมสำหรับการตรวจสอบ: กฎหมายกำหนดให้รถทุกคันต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน การอบรม DDC จะสอนให้ผู้ขับขี่รู้จักตรวจเช็กสภาพรถเบื้องต้นก่อนออกเดินทาง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงที่รถจะขัดข้องและส่งผลให้ผ่านการตรวจสภาพตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
3. DDC: ลดบทลงโทษและเพิ่มความน่าเชื่อถือ ✅
การเข้ารับการอบรม DDC ไม่เพียงช่วยลดอุบัติเหตุ แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น
-
ลดโอกาสการทำผิดกฎหมาย: เมื่อผู้ขับขี่มีความรู้และจิตสำนึกที่ดี จะช่วยลดโอกาสในการทำผิดกฎจราจรและข้อบังคับต่างๆ ซึ่งช่วยลดค่าปรับและบทลงโทษที่อาจเกิดขึ้น
-
สร้างความน่าเชื่อถือในตลาด: การที่บริษัทลงทุนในการอบรม DDC ให้พนักงาน จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาของลูกค้าและคู่ค้าว่าเป็นองค์กรที่มีความรับผิดชอบและให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญในโลกธุรกิจปัจจุบัน
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Line: @961zauzv
โทร: 094-395-5222
Facebook: Training Zenter