ความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดระหว่างการอบรมบุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่ง (TSM) สำหรับบุคคลทั่วไปและผู้มีประสบการณ์ คือ ระยะเวลาและโครงสร้างเนื้อหา หลักสูตรที่แตกต่างกันนี้สะท้อนถึงการรับรู้ประสบการณ์และความรู้พื้นฐานของผู้สมัคร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกเส้นทางการเป็น TSM ที่เหมาะสมที่สุด
1. หลักสูตรพื้นฐาน 18 ชั่วโมง: สำหรับบุคคลทั่วไป (General Track)
หลักสูตรนี้ถูกออกแบบมาสำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ตรงด้านการบริหารความปลอดภัยหรือการขนส่งมาก่อน เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจจากพื้นฐานไปจนถึงการปฏิบัติงานจริง
ระยะเวลา: รวม 18 ชั่วโมง (มักจัดอบรม 2-3 วันเต็ม)
โครงสร้างเนื้อหา: เน้นความครอบคลุมและลงลึกในทุกมิติของ TSM
ทฤษฎีพื้นฐาน: กฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งทางบก (พรบ. ขนส่ง), หน้าที่ความรับผิดชอบของ TSM ตามกฎหมาย
การบริหารความปลอดภัย: ระบบการจัดการความปลอดภัย (SMS), การจัดการพนักงานขับรถ (ชั่วโมงการขับขี่, ความเหนื่อยล้า), การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance)
การวิเคราะห์อุบัติเหตุ: การประเมินความเสี่ยง, การสอบสวนและรายงานอุบัติเหตุ, การใช้ข้อมูลจากระบบ Telematics
กลุ่มเป้าหมาย: ผู้จบการศึกษาใหม่, ผู้ที่เปลี่ยนสายงาน, หรือผู้ประกอบการที่ต้องการเริ่มต้นเรียนรู้ระบบ TSM จากศูนย์
2. หลักสูตรเร่งรัด 6 ชั่วโมง: สำหรับผู้มีประสบการณ์ (Fast Track)
หลักสูตรนี้จัดทำขึ้นโดยการใช้สิทธิ์ลดหย่อนชั่วโมงอบรมสำหรับผู้ที่มีคุณสมบัติตรงตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด (เช่น จป. วิชาชีพ หรือมีประสบการณ์บริหารขนส่ง 5 ปี)
ระยะเวลา: รวม 6 ชั่วโมง (มักจัดอบรม 1 วันเต็ม)
โครงสร้างเนื้อหา: เน้นการทบทวนและการปรับมุมมองประสบการณ์เดิมให้สอดคล้องกับมาตรฐาน TSM
การเน้นย้ำกฎหมายสำคัญ: ทบทวนเฉพาะส่วนของกฎหมายและระเบียบปฏิบัติที่ TSM ต้องรับผิดชอบโดยตรง (เนื่องจากถือว่ามีพื้นฐานความรู้ด้านกฎหมายความปลอดภัย/การบริหารจัดการอยู่แล้ว)
การเชื่อมโยงความรู้เดิมกับ TSM: เน้นการประยุกต์ใช้ความรู้ด้านความปลอดภัย (สำหรับ จป. วิชาชีพ) หรือความรู้ด้านการบริหารจัดการ (สำหรับผู้มีประสบการณ์) เข้ากับระบบการขนส่ง
การเตรียมสอบ: มุ่งเน้นไปที่หัวข้อที่มักถูกนำไปออกข้อสอบ $e$–$Exam$ เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถสอบผ่านและขึ้นทะเบียนได้อย่างรวดเร็ว
กลุ่มเป้าหมาย: ผู้ประกอบการที่มีประสบการณ์, จป. วิชาชีพ, หรือบุคลากรที่มีวุฒิการศึกษาและประสบการณ์สูงที่ต้องการลดระยะเวลาในการเข้าสู่ระบบ TSM
3. ผลลัพธ์ที่เท่าเทียม: มาตรฐานการสอบหลังจบหลักสูตร
แม้ว่าระยะเวลาและเนื้อหาการอบรมจะแตกต่างกัน แต่สิ่งที่ TSM ทั้งสองกลุ่มต้องเผชิญและผ่านให้ได้ คือมาตรฐานเดียวกัน:
การสอบ $e$–$Exam$: TSM ทุกคนต้องเข้าสอบวัดผลความรู้ (e-Exam) และต้องได้คะแนนผ่านเกณฑ์ที่กำหนด (โดยทั่วไปคือ 70% ขึ้นไป) หลักสูตร 6 ชั่วโมงเป็นเพียงการลดชั่วโมงเรียน แต่ไม่ได้ลดความยากง่ายของการสอบ
สถานะการขึ้นทะเบียน: เมื่อสอบผ่านและยื่นเอกสารขึ้นทะเบียนครบถ้วน สถานะการเป็น TSM ที่ได้รับจะมีผลทางกฎหมาย เท่าเทียมกัน สามารถปฏิบัติหน้าที่และรับผิดชอบด้านความปลอดภัยในการขนส่งได้ตามกฎหมาย
ดังนั้น ผู้มีประสบการณ์จึงใช้ความรู้เดิมเป็น “ต้นทุน” เพื่อแลกกับการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการอบรม แต่ยังคงต้องพิสูจน์ความสามารถผ่านการสอบมาตรฐานเช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Line: @961zauzv
โทร: 094-395-5222
Facebook: Training Zenter







