คำถามที่ผู้ประกอบการและผู้สมัครมักสงสัยคือ: “TSM ที่จบหลักสูตร 6 ชั่วโมง มีมาตรฐานและทักษะเท่าเทียมกับ TSM ที่จบหลักสูตร 18 ชั่วโมงหรือไม่?” คำตอบคือ “เท่าเทียมกันทางกฎหมาย แต่แตกต่างกันทางทักษะเชิงลึก” บทความนี้จะเจาะลึกความเข้มข้นของการสอบและสิ่งที่องค์กรคาดหวังจาก TSM ทั้งสองกลุ่ม
1. มาตรฐานความเข้มข้นของการสอบ: "E-Exam" คือตัววัดที่เท่าเทียม
ไม่ว่าผู้สมัครจะเข้าอบรมหลักสูตรใด ทุกคนต้องผ่านด่านการสอบวัดผลความรู้ (E-Exam) มาตรฐานเดียวกัน ที่กำหนดโดยกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ซึ่งถือเป็นมาตรการหลักในการรับรองสถานะ TSM
ข้อสอบเดียวกัน: TSM ทั้งกลุ่มบุคคลทั่วไปและกลุ่มผู้มีประสบการณ์ ต้องทำข้อสอบชุดเดียวกัน มีจำนวนข้อเท่ากัน และต้องทำคะแนนให้ได้ ไม่น้อยกว่า 70% จึงจะถือว่าผ่านการรับรอง
การเน้นหนักของข้อสอบ: ข้อสอบ E-Exam มุ่งเน้นการวัดความรู้ด้าน กฎหมายและระเบียบปฏิบัติ (Compliance) และ ระบบการจัดการความปลอดภัย (SMS) ซึ่งเป็นหน้าที่หลักตามกฎหมายของ TSM
ดังนั้น: ในทางกฎหมาย ผู้ที่สอบผ่านทุกคนถือว่ามีความรู้และสิทธิ์ในการขึ้นทะเบียนเป็น TSM เท่าเทียมกัน ไม่มีสถานะ TSM ระดับสูงกว่าหรือต่ำกว่า
2. ความแตกต่างของ "ทักษะที่คาดหวัง" หลังสอบผ่าน (The Expectation Gap)
แม้จะเท่าเทียมทางกฎหมาย แต่ความคาดหวังและทักษะเชิงปฏิบัติที่องค์กรต้องการจาก TSM ทั้งสองกลุ่มนั้นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ:
| ด้านของทักษะ | TSM บุคคลทั่วไป (18 ชม.) | TSM ผู้มีประสบการณ์ (6 ชม.) |
| ความรู้พื้นฐานระบบ (System Knowledge) | สูงกว่า: เน้นการเรียนรู้ระบบ TSM จากศูนย์ มีความเข้าใจขั้นตอนตามตำราอย่างเป็นระบบ | ต่ำกว่า: ถือว่ามีประสบการณ์ทำงานอยู่แล้ว การอบรมเน้นทบทวน ไม่ลงรายละเอียดพื้นฐานทั้งหมด |
| ทักษะการปฏิบัติงาน (Practical Skills) | ต้องการการฝึกฝนเพิ่ม: แม้จะรู้ทฤษฎีแน่น แต่ยังขาดประสบการณ์ในการ “นำไปใช้” และการแก้ไขปัญหาในโลกแห่งความเป็นจริง | สูงกว่า: คาดหวังให้สามารถ ประยุกต์ใช้ ความรู้ TSM เข้ากับระบบเดิมของบริษัทได้ทันที และมีทักษะในการเจรจาหรือบริหารทีมงานแล้ว |
| ความมั่นใจในการวิเคราะห์เหตุการณ์ | ต้องสร้าง: ต้องใช้เวลาในการเชื่อมโยงทฤษฎีเข้ากับข้อมูล Telematics หรือการสอบสวนเหตุการณ์จริง | พร้อมใช้งาน: คาดหวังให้ใช้ประสบการณ์เดิม (เช่น การเป็น จป. หรือผู้บริหาร) ในการวิเคราะห์และตัดสินใจได้อย่างเฉียบขาด |
สรุปทักษะ: TSM ที่จบหลักสูตร 6 ชั่วโมง ถูกคาดหวังให้เป็น “ผู้ปฏิบัติงานทันที” (Ready-to-Deploy) ขณะที่ TSM หลักสูตร 18 ชั่วโมง เป็น “นักวางแผนระบบ” ที่ต้องใช้เวลาในการสั่งสมประสบการณ์เชิงปฏิบัติเพิ่มเติม
3. สิ่งที่ TSM ทั้งสองกลุ่มต้องเติมเต็ม
เพื่อลดช่องว่างของทักษะ TSM ทั้งสองกลุ่มควรให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้:
สำหรับ TSM บุคคลทั่วไป (18 ชม.): ควรเข้าร่วมการสัมมนาเพิ่มเติม หรือหาโอกาสในการ ฝึกปฏิบัติจริง (On-the-Job Training) ร่วมกับบุคลากรที่มีประสบการณ์ เพื่อเปลี่ยนความรู้ทฤษฎีให้เป็นทักษะที่ใช้งานได้จริง
สำหรับ TSM ผู้มีประสบการณ์ (6 ชม.): ต้องเน้นการทำความเข้าใจ ข้อบังคับและแบบฟอร์มใหม่ล่าสุดของ ขบ. ที่อาจเปลี่ยนแปลงไปจากช่วงที่ตนเคยทำงาน เนื่องจากหลักสูตรเร่งรัดเน้นความเร็ว อาจทำให้พลาดรายละเอียดปลีกย่อยทางกฎหมายได้
การสอบ E-Exam เป็นเพียงใบเบิกทาง แต่ความสามารถในการลดต้นทุนอุบัติเหตุและเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งในโลกธุรกิจจริงเท่านั้น ที่จะบ่งบอกถึง “มูลค่า” ที่แท้จริงของ TSM แต่ละบุคคล
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Line: @961zauzv
โทร: 094-395-5222
Facebook: Training Zenter







