ในอุตสาหกรรมการขนส่งยุคปัจจุบัน Total Safety Management (TSM) ไม่ใช่แค่ข้อบังคับตามกฎหมาย แต่เป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยง สร้างความน่าเชื่อถือ และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน TSM สำหรับการจัดการยานพาหนะและขนส่ง (Fleet & Transport) ในปี พ.ศ. 2568 ได้ถูกยกระดับด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ เพื่อให้เกิดการจัดการความปลอดภัยเชิงรุกและแม่นยำยิ่งขึ้น
1. การใช้เทคโนโลยี AI เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่
หัวใจของ TSM ยุคใหม่คือการจัดการกับ ปัจจัยเสี่ยงจากคนขับ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอุบัติเหตุ เทคโนโลยี AI กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการเปลี่ยนพฤติกรรมคนขับ
-
กล้อง AI ตรวจจับพฤติกรรมเสี่ยง: ติดตั้งกล้องโทรมาตร (Telematics Cameras) ที่มี AI ตรวจจับพฤติกรรมอันตรายแบบเรียลไทม์ เช่น
-
การหลับใน/ความง่วง: แจ้งเตือนคนขับด้วยเสียงเมื่อตรวจจับสัญญาณความง่วง
-
การใช้โทรศัพท์มือถือ: แจ้งเตือนเมื่อคนขับละสายตาจากถนนเพื่อใช้โทรศัพท์
-
การสูบบุหรี่ขณะขับรถ: ตรวจจับและบันทึกภาพพฤติกรรมที่ไม่ปลอดภัย
-
-
ระบบให้คะแนนความปลอดภัย (Safety Scoring): AI จะประเมินและให้คะแนนพฤติกรรมการขับขี่ของพนักงานแต่ละคน โดยพิจารณาจากข้อมูล เช่น การเร่งความเร็ว, การเบรกกะทันหัน, และการเข้าโค้งอย่างรุนแรง ข้อมูลนี้ถูกใช้เพื่อระบุ “ผู้ขับขี่ที่มีความเสี่ยงสูง” และจัดอบรมที่ตรงจุด
2. การบริหารจัดการยานพาหนะเชิงป้องกันด้วย FMS
ระบบบริหารจัดการยานพาหนะ (Fleet Management System – FMS) ทำงานร่วมกับ TSM เพื่อให้มั่นใจว่ายานพาหนะอยู่ในสภาพที่ปลอดภัยและพร้อมใช้งานอยู่เสมอ
-
การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ (Predictive Maintenance): ใช้เซ็นเซอร์ IoT ตรวจสอบสุขภาพของชิ้นส่วนสำคัญ เช่น อุณหภูมิเครื่องยนต์, แรงดันลมยาง, หรือระดับน้ำมันหล่อลื่น หากพบค่าผิดปกติ ระบบจะแจ้งเตือนให้มีการซ่อมบำรุงก่อนที่รถจะชำรุดเสียหายกลางทาง
-
การจัดการรอบการตรวจสภาพ: FMS จะช่วยบันทึกและแจ้งเตือนวันครบกำหนดของการตรวจสภาพรถและการบำรุงรักษาตามระยะอย่างเป็นระบบ เพื่อให้มั่นใจว่ารถทุกคันผ่านมาตรฐานความปลอดภัยตามกฎหมาย TSM
3. การบูรณาการ TSM เข้ากับกระบวนการทำงานทั้งหมด
TSM ต้องถูกฝังอยู่ในทุกขั้นตอนการทำงานของธุรกิจขนส่ง ไม่ใช่แค่เรื่องของฝ่ายความปลอดภัยเท่านั้น
-
การวางแผนเส้นทางที่ปลอดภัย: ใช้ระบบ GPS และข้อมูลความเสี่ยงในอดีตมาช่วยในการวางแผนเส้นทางที่หลีกเลี่ยงพื้นที่อันตราย, จุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อย, หรือเส้นทางที่ถูกน้ำท่วมตามฤดูกาล
-
การจัดการชั่วโมงการขับขี่อย่างเคร่งครัด: ใช้ระบบติดตามเพื่อควบคุมชั่วโมงการขับขี่ของพนักงานตามกฎหมาย (Hours of Service) เพื่อป้องกันความล้าจากการทำงานหนักเกินไป ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของอุบัติเหตุ
-
การรายงานและวิเคราะห์อุบัติเหตุ (Incident Analysis): สร้างวัฒนธรรมที่สนับสนุนให้พนักงานรายงานเหตุการณ์เกือบเกิดอุบัติเหตุ (Near Miss) เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์หาสาเหตุรากฐาน (Root Cause) และแก้ไขที่ระบบ แทนที่จะโทษตัวบุคคล
การนำเทคโนโลยีมาใช้ใน TSM for Fleet & Transport จึงเป็นการเปลี่ยนผ่านจากการ “ควบคุม” สู่การ “คาดการณ์และป้องกัน” ทำให้ธุรกิจขนส่งสามารถดำเนินงานได้อย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Line: @961zauzv
โทร: 094-395-5222
Facebook: Training Zenter